ในยุคที่โลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งด้านประชากร เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยย่อมได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ มาดูกันว่าแนวโน้มเหล่านี้จะส่งผลอย่างไรต่อภาคอสังหาริมทรัพย์บ้านเรา
การเปลี่ยนแปลงของประชากร
ปัจจุบัน ประชากรโลกมีประมาณ 7.6 พันล้านคน และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 8.6 พันล้านในปี 2573 และ 9.8 พันล้านในปี 2593 อย่างไรก็ตาม สำหรับประเทศไทย ประชากรอาจลดลง โดยคาดว่าในปี 2643 จะเหลือเพียง 45.5 ล้านคน
ผลกระทบต่ออสังหาริมทรัพย์ไทย
- การลดลงของการก่อสร้างที่อยู่อาศัยใหม่: เมื่อประชากรลดลง ความต้องการที่อยู่อาศัยใหม่ย่อมลดลงตาม ทำให้บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต้องปรับตัวไปสู่การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่น เช่น อาคารสำนักงานให้เช่า โรงพยาบาล หรือโกดังสินค้า
- การเติบโตของตลาดบ้านมือสอง: ด้วยจำนวนบ้านมือสองที่มีอยู่มากกว่าบ้านมือหนึ่งในตลาด การซื้อขายบ้านมือสองจะมีบทบาทสำคัญมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้สัดส่วนของตลาดบ้านมือสองเพิ่มขึ้นเป็น 4 เท่าของบ้านมือหนึ่ง เช่นเดียวกับในสหรัฐอเมริกา
- ความต้องการที่อยู่อาศัยใหม่ในเมือง: แม้ประชากรจะลดลง แต่ความต้องการที่อยู่อาศัยในเมืองยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะสำหรับกลุ่มคนโสด คู่แต่งงานที่ไม่ต้องการมีบุตร หรือผู้สูงวัย ทำให้การพัฒนาที่อยู่อาศัยในเมืองยังคงมีความสำคัญ
- การปรับปรุงหรือรื้อถอนที่อยู่อาศัยเก่า: ในอนาคต ที่อยู่อาศัยที่มีอายุการใช้งานนานอาจต้องได้รับการปรับปรุงหรือรื้อถอน เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการและคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย
การรับมือกับการเปลี่ยนแปลง
เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนี้ ประเทศไทยอาจต้องพิจารณานโยบายส่งเสริมการเพิ่มประชากร เช่นเดียวกับสิงคโปร์ที่มีการส่งเสริมให้ประชากรมีบุตรเพิ่มขึ้น และการดึงดูดแรงงานคุณภาพจากต่างประเทศ นอกจากนี้ การพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงวัย หรือการปรับปรุงที่อยู่อาศัยเก่าในเมืองให้เหมาะสมกับความต้องการใหม่ ๆ ก็เป็นแนวทางที่ควรพิจารณา
สรุป
การเปลี่ยนแปลงของโลกในด้านต่าง ๆ ย่อมส่งผลต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การเตรียมความพร้อมและปรับตัวให้สอดคล้องกับแนวโน้มเหล่านี้จะช่วยให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ไทยยังคงเติบโตและตอบสนองความต้องการของประชากรในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ